- สวัสดีปีใหม่ 2015 -
ทางโรงเรียนตราดสรรเสริญวิทยาคมได้จัดกิจกรรมวันปีใหม่และวันคริสต์มาสขึ้น เพื่อให้นักเรียนทุกคนทำกิจกรรมด้วยกัน เช่น
⚫กิจกรรมแสดงละครคริสต์มาส
เป็นกิจกรรมของระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/1 โดยแสดงละครในเรื่อง " กำเนิดพระเยซู " เป็นการแสดงที่สนุกมากและได้ประสบการณ์ดีๆที่ได้แสดงกับเพื่อนในห้องที่เรียนด้วยกัน
และนอกจากนี้ยังมีการแสดงอีก1ชุด ซึ่งเป็นการแสดงในการสอบกลางภาค คือ " เต้นลีลาศ "
เป็นการแสดงที่ฮามาก เพราะตื่นเต้นทำให้เต้นผิดเต้นถูกแต่ก็สนุกดี และผ่านลุล่วงไปได้ด้วยดี ❤
วันเสาร์ที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2559
สิวเสี้ยน
สิวเสี้ยน อีกปัญหาหนึ่งของสิวที่น่ากวนใจเลยไม่น้อย เพราะเจ้าสิวชนิดนี้จะมาทีเป็นกองทัพ มีสาเหตุการเกิดสิวคล้าย ๆ กับสิวอุดตัน แต่มีความแตกต่างตรงที่สิวเสี้ยนจะมีขนเข้ามารวมตัวอยู่กับไขมันด้วย ซึ่งขนเหล่านั้นจะมีจำนวนมากกว่าเส้นเดียว บางคนแค่สิวหัวเดียวยังมีขนขดอยู่ถึง 50 เส้น แล้วขนที่รวมตัวขดกันอยู่ก็ไม่หลุดร่วงอย่างที่ควรจะเป็น จึงทำให้มันสะสมสิ่งสกปรกแล้วอุดตันจนกลายเป็นสิว
สิวเสี้ยน (Trichostasis Spinulosa) เป็นปัญหาที่พบได้บ่อยตั้งแต่วัยรุ่นจนถึงวัยสูงอายุ สิวเสี้ยนตามหลักแล้วจะเป็นสิวที่เกิดจากความผิดปกติของต่อมรูขน โดยมีลักษณะคล้ายกับสิวอุดตันหัวดำและมีกระจุกขนเล็ก ๆ หลายเส้นแทรกอยู่ในหัวสิวอุดตันด้วย มีลักษณะเป็นจุดดำเล็ก ๆ ตามใบหน้า หรือมีหนามแหลม ๆ ยื่นออกมาทางรูขุมขน โดยมักพบขึ้นบริเวณปลายจมูก หน้าผาด ข้างแก้ม บริเวณคาง คอด้านหลัง ซึ่งสิวเสี้ยนในความหมายก็คือกระจุกของเส้นขนอ่อน ๆ หลายสิบเส้นและเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วอุดตันอยู่ในรูขุมขน
ส่วนสิวเสี้ยนอีกความหมายหนึ่ง ที่คนทั่วไปมักใช้ในความหมายของ “ก้อนไขมันอุดตัน” หรือที่เรียกว่า คอมีโดน (Comedone) จะเป็นสิวเสี้ยนที่เกิดจากต่อมไขมันผลิตไขมันมากเกินไป ทำให้ไขมันหลั่งออกมาไม่ทัน จนเกิดเป็นก้อนอุดตันขึ้นมาในท่อรูขุมขน บางครั้งก้อนไขมันอุดตันก็ไม่มีรูเปิด ทำให้เห็นเป็นสิวหัวขาวฝังอยู่ในผิวหนัง แต่สิวเสี้ยนที่กำลังจะกล่าวต่อไปนี้คือสิวเสี้ยนตามความหมายแรก ซึ่งสิวเสี้ยนหรือขนอุดตันนี้ก็ไม่ได้มีอันตรายแต่อย่างใด นอกจากจะมีปัญหาในด้านความงามหรือก่อให้เกิดความรำคาญเท่านั้น
วิธีรักษาสิวเสี้ยน
- เริ่มจากดูแลตัวเอง เราสามารถลดสิวเสี้ยนได้ด้วยวิธีการง่าย ๆ โดยการรักษาความสะอาดบนใบหน้า พยายามอย่าให้หน้ามัน หากหน้ามันระหว่างวันก็ให้ใช้ทิชชู่ซับหน้าแทนการใช้กระดาษซับมัน หรือจะล้างหน้าด้วยน้ำเปล่าแล้วซับหน้าให้แห้งก็ได้ และไม่ควรล้างหน้าเกินวันละ 2 ครั้ง พยายามเลือกใช้เครื่องสำอางที่ช่วยดูดซับความมัน เลือกผลิตภัณฑ์บำรุงที่มีเนื้อบางเบา เช่น แบบเจลหรือโลชั่น และใช้ในปริมาณน้อย เพื่อลดการอุดตันบริเวณรูขุมขน และรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ให้ได้สัดส่วนที่เหมาะสม เน้นรับประทานผักและผลไม้ให้มาก ๆ เลี่ยงอาหารที่มีไขมันมาก ดื่มน้ำสะอาดวันละ 6-8 แก้ว
- หลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยง การรักษาต้องควบคู่มากับการป้องกัน พฤติกรรมเสี่ยงที่อาจก่อให้เกิดสิวเสี้ยนคุณควรหลีกเลี่ยงไม่ว่าจะเป็นปัจจัยที่ทำให้หน้ามันหรือปัจจัยที่เป็นตัวกระตุ้นให้รูขุมขนกว้าง เช่น บำรุงผิวหน้าจนเกินความจำเป็น บีบสิวเสี้ยนหรือกดสิวเสี้ยนด้วยตัวเอง รวมไปถึงการนวดหน้า ขัดหน้าบ่อย ๆ เช็ดถูกหน้าแรง ๆ จนเป็นการรบกวนรูขุมขน ทำให้รูขุมขนกว้างและก่อให้เกิดการอุดตันได้ง่าย จนกลายเป็นปัญหาไม่รู้จบ
- เบนซอยเพอร์ออกไซด์ (Benzoyl peroxide – BP) หรือยาบีพี ให้นำมาใช้ทาให้ทั่วหน้าก่อนการล้างวันละ 2 ครั้ง ทั้งเช้าและเย็นหรือก่อนนอน โดยให้ทาทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที แล้วจึงล้างออกด้วยน้ำสะอาด ยานี้จะออกฤทธิ์ไปลดปริมาณไขมันที่ผิวหนังและช่วยละลายสิ่งสกปรกที่อุดตันตามรูขุมขน จึงช่วยลดการอุดตันของต่อมไขมันได้ เริ่มต้นควรใช้ในขนาดความเข้มข้นต่ำก่อนหรือขนาด 2.5% เมื่อผิวเริ่มชินกับยาแล้ว จึงค่อยเพิ่มระยะเวลาการทาให้นานขึ้น และเพิ่มความเข้มข้นของยาเป็น 5% หรือ 10% ไขมันที่อุดตันก็จะถูกละลาย แต่ขนที่คุดเป็นเส้นดำ ๆ นั้น อาจต้องใช้วิธีอื่นร่วมด้วย เช่น การกดออก
- เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ประเภท AHA และ BHA (ยาละลายสิวเสี้ยน) เพราะมันจะช่วยทำให้ไขมันอ่อนตัวลง ทำให้เราสามารถเอาสิวเสี้ยนออกมาได้โดยง่าย เมื่อเรานำเอาสิวเสี้ยนออกจากรูขุมจนของเราได้แล้ว ก็ต้องกระชับรูขุมขนด้วยโทนเนอร์ทันที เพียงเท่านี้ก็สามารถลดการเกิดสิวเสี้ยนได้แล้วล่ะ สำหรับผลิตภัณฑ์ประเภท BHA อาจหาได้ไม่ง่ายนัก แม้ว่าจะใช้ชื่อ BHA (Beta hydroxyl acid) แต่บนฉลากมักเขียนว่า Salicylic acid แถมเรายังไม่รู้ด้วยว่ามี BHA ผสมอยู่มากพอที่ช่วยละลายไขมันได้หรือไม่ เลยทำให้คนใจร้อนรู้สึกว่ามันเห็นผลช้า ดังนั้นถ้าอยากจะใช้ตัวช่วยที่รวดเร็วกว่า BHA ก็ขอแนะนำเป็น “เรตินอยด์” (ภาพ : teeneeshop.com)
- ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มเรตินอยด์ (Retinoids) ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยละลายการอุดตันของต่อมไขมัน ลดการเกาะตัวของเซลล์ผิวหนัง ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของเซลล์บริเวณรูขุมขน จึงช่วยป้องกันการเกิดสิวเสี้ยนใหม่และช่วยทำให้สิวเสี้ยนหลุดออกมาได้ง่าย ในปัจจุบันมีให้เลือกทั้งแบบแอลกอฮอล์เบสและแบบวอเตอร์เบส ส่วนการเลือกใช้ก็ดูว่าเราเหมาะกับแบบไหนมากกว่ากัน ระหว่างเรตินเอ (แอลกอฮอล์เบส) หรือ ดิฟเฟอริน (วอเตอร์เบส) โดยเรตินอยด์นั้นจะมีการทำงานคล้ายกับ BHA แต่จะให้ผลรวดเร็วทันใจกว่า ทำให้สิวเสี้ยนหลุดออกมาจากรูขุมขนได้ง่ายขึ้น ยิ่งถ้าใช้ร่วมกับมาร์คลอกสิวเสี้ยนและทำการกระชับผิวด้วยโทนเนอร์และเจลสำหรับกระชับรูขุมขนละก็ ผิวของคุณก็จะเรียบเนียนสมใจอยากแล้วล่ะ
แหล่งอ้างอิง : http://frynn.com
วันพุธที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2559
ทัศนศึกษา ม.6/1
พวกเราได้ไปทัศนศึกษาที่ " ดรีมเวอร์ " โดยรถทัวร์ของทางโรงเรียน ได้เริ่มเดินทางตั้งแต่ตีสอง เป็นการเดินทางที่สะลืมสะลือมาก 555555 เพราะต้องตื่นดึกเพื่อมาขึ้นรถที่โรงเรียน สถานที่ที่ไปนั้นคือเป็นสวนสนุก ที่มีเครื่องเล่นมากมาย มีสวนน้ำให้เล่น
ดิฉันได้เล่นเครื่องเล่นหลายอย่างมากโดยเฉพาะเครื่องเล่น แกรนแคนหย่อน มันสนุกมากและมีความสุขมากที่ได้เล่นกับเพื่อนๆ
วิธีทำให้หน้าใส รับประกันเลย100%แต่ต้องทำทุกวันนะ
คือว่าเรามีวิธีทำให้หน้าใส เลยจะมาเล่าสู่กันฟัง แล้วลงทุนน้อยด้วยราคา 12 บาทเอง
วิธีทำ
1.ใช้โยเกิร์ต รสธรรมชาติ (เท่านั้น) รศอื่นห้ามนะ
2.ล้างหน้าให้สะอาด แล้วเช็ดให้แห้ง
3.จากนั้นก็ใช้ "โยเกิร์ต"พอกที่หน้า (บางๆ)
4.แล้วทิ้งไว้ให้แห้งติดกับหน้าเลย
5.จากนั้นก็ใช้นิ้วขัดโยเกิร์ตที่หน้า ขัดจนรู้สึกว่าเจ็บหน้าแล้วอ่ะ ก็พอได้
6.จากนั้นก็ล้างด้วยน้ำเปล่า แล้วเช็ดให้แห้ง
7.จากนั้นคุณจะรู้สึกว่าหน้าดีขึ้น จากนั้นก็ใช้ครีมรสน้ำนม(เท่านั้น)ทาที่หน้าเราแล้วห้ามทาแป้งนะ ทิ้งไว้แบบนั้นแหละ
ก็มีแค่นี้แหละนะ ลองทำดู ลงทุนน้อยได้ผลมากนะ เพราะเราทำแล้ว รู้สึกหน้าใสขึ้นเยอะเลย รับรองเลย แต่ว่าต้องทำทุกวันนะ ต้องนอนถึงจะได้ผลที่สุด ^__^
แหล่งอ้างอิง : http://creamnhasai.com
วันพุธที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2559
สูตรพอกหน้าใสไร้สิว ลดริ้วรอย ทำได้ง่ายๆ
สำหรับสูตรพอกหน้าใสที่ได้รับความนิยม ซึ่งได้ทำการรวบรวมมา มีดังต่อไปนี้
1. สูตรมะเขือเทศ+โยเกิร์ต นำมะเขือเทศลูกเล็กๆ จำนวน 3 ลูก และโยเกิร์ต 3 ช้อนโต๊ะ ปั่นให้ละเอียดให้เข้าเป็นเนื้อเดียวกัน แล้วนำส่วนผสมที่ได้มาทำการพอกบนใบหน้า ทิ้งเอาไว้ประมาณ 15 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด
2. สูตรโยเกิร์ต+เกลือป่น นำโยเกิร์ตรสธรรมชาติ 1 ถ้วย ผสมเข้ากับเกลือป่นละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ ให้เป็นเนื้อเดียวกัน แล้วนำส่วนผสมที่ได้มาทำการพอกบนใบหน้า จากนั้นให้ใช้ปลายนิ้วชี้และนิ้วกลางขัดไปทั่วหน้าในลักษณะวงกลมอย่างเบามือประมาณ 5 นาที แล้วปล่อยทิ้งเอาไว้ 5 นาที หลังจากนั้นให้ล้างออกด้วยน้ำสะอาด
3. สูตรแตงกวา+ไข่ขาว เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาหน้าที่มีความมัน และปัญหาเรื่องสิวมากๆ นำแตงกวา 1 ลูก ไข่ขาว 1 ฟอง น้ำมะนาว 1 ช้อนชา ผสมให้เป็นเนื้อเดียวกัน แล้วนำส่วนผสมที่ได้มาทำการพอกบนใบหน้า ทิ้งเอาไว้ประมาณ 15-20 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด
4. สูตรแตงโม นำแตงโมมาฝานให้เป็นชิ้นบางๆ จากส่วนที่แดงที่สุด จากนั้นให้นำชิ้นแตงโมเหล่านั้นมาแปะให้ทั่วใบหน้า ทิ้งเอาไว้ประมาณ 30 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด
5. สูตรมะเขือเทศสด นำมะเขือเทศมาฝานให้เป็นชิ้นหนาๆ แล้วนำมาถูให้ทั่วใบหน้าและลำคอ เมื่อรู้สึกว่าน้ำในมะเขือเทศหมดแล้วให้เปลี่ยนชิ้นใหม่มาถูแทน ทิ้งเอาไว้สักครู่ แล้วใช้สำลีชุบน้ำเย็น เช็ดมะเขือเทศบนใบหน้าออกให้สะอาด
6. สูตรนมเปรี้ยวแช่เย็น สูตรนี้เหมาะสำหรับคนที่มีผิวมัน เริ่มจากการล้างหน้าให้สะอาด แล้วนำนมเปรี้ยวที่แช่เย็นมาทาพอกให้ทั่วใบหน้า ทิ้งเอาไว้ประมาณ 20 นาที แล้วใช้ผ้าขนหนูนุ่มๆ เช็ดออก
7. สูตรมะขามเปียก+นมสด นำน้ำที่คั้นออกมาจากมะขามเปียกที่ผสมกับน้ำอุ่นประมาณ 2 ช้อนโต๊ะ ผสมเข้ากับนมสด 2-3 ช้อนโต๊ะ แล้วนำส่วนผสมที่ได้มาทำการพอกบนใบหน้า ทิ้งเอาไว้ประมาณ10-15 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด
8. สูตรมะเขือเทศ+ข้าวโอ๊ต นำมะเขือเทศ 1 ผลมาบดให้ละเอียด แล้วผสมเข้ากับข้าวโอ๊ต 1 ช้อนชา ให้เป็นเนื้อเดียวกัน แล้วนำส่วนผสมที่ได้มาทำการพอกบนใบหน้า ทิ้งเอาไว้ประมาณ 10-15 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด
9. สูตรวุ้นว่านหางจระเข้ นำวานหางจระเข้มาปอกเปลือกเอาแต่เนื้อวุ้นที่อยู่ภายใน ล้างน้ำให้สะอาด แล้วนำไปปั่นหรือบดจนละเอียดกลายเป็นเนื้อเจล จากนั้นนำไปการพอกบนใบหน้า ทิ้งเอาไว้ประมาณ 20 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด
10. สูตรใบบัวบก นำใบบัวบกสดมาคั้นเอาน้ำ ใช้ผ้าก็อตสะอาดจุ่มเอาน้ำใบบัวบก แล้วนำผ้าก็อตไปวางทั่วใบหน้า ทิ้งเอาไว้ประมาณ 15-20 นาที แล้วล้างออก
แหล่งอ้างอิง : http://www.beauty24store.com/
สูตรพอกหน้าใสไร้สิว ลดริ้วรอย ด้วยวิธีธรรมชาติ ทำอย่างไร
แต่ก่อนที่จะได้มาซึ่งผิวที่ขาวดังไข่มุกนั้น คุณสาวๆ ก็ต้องหมั่นดูแลรักษา พร้อมกับบำรุงผิวพรรณของตัวเองให้ดี “การพอกหน้าใส” ก็เป็นอีกหนึ่งในวิธีการที่จะช่วยทำให้ใบหน้าของคุณสาวๆ ขาวใสขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ แถมยังเป็นวิธีการที่สามารถทำได้อย่างง่ายๆ ที่บ้านอีกต่างหาก
- เมื่อรู้แบบนี้แล้วจะรอช้าอยู่ทำไม วันนี้เรารีบไปรู้จักกับวิธีการพอกหน้าใสจากสูตรธรรมชาติกันเลยดีกว่า ว่ามีสูตรอะไรกันบ้าง…!? ☺
สูตรพอกหน้าใสจากวิธีธรรมชาติ
สูตรพอกหน้าใส ที่กำลังจะนำเสนอต่อไปนี้ เป็นส่วนผสมที่เรียบง่าย แต่การที่จะพอกหน้าให้มีประสิทธิภาพสูงสุด คุณสาวๆ ก็ควรที่จะทำตามเป็นประจำอย่างต่อเนื่อง และอย่าพึ่งใจร้อน เพราะอยากสวยก็ต้องใช้เวลาและความอดทน เมื่อเวลาผ่านไปสักระยะหนึ่ง คุณสาวๆ จะสามารถสัมผัสได้ว่า ผิวของตัวเองใบหน้ามีความขาวเนียนใสมากขึ้น อีกทั้งส่วนผสมเหล่านี้ยังมาจากธรรมชาติ เพราะฉะนั้นจึงหมดห่วงในเรื่องผลกระทบจากสารเคมี หรืออันตรายต่อร่างกายอย่างแน่นอนสำหรับสูตรพอกหน้าใสที่ได้รับความนิยม ซึ่งได้ทำการรวบรวมมา มีดังต่อไปนี้
1. สูตรน้ำผึ้ง+โยเกิร์ต นำน้ำผึ้งและโยเกิร์ตมาผสมเข้าด้วยกัน แล้วนำส่วนผสมที่ได้มาพอกลงบนใบหน้า ทิ้งเอาไว้ประมาณ 30 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด
2. สูตรมะละกอสุก+นมสด นำมะละกอสุกและนมสดมาทำการผสมให้เข้าเป็นเนื้อเดียวกัน แล้วนำส่วนผสมที่ได้มาทำการพอกบนใบหน้า ทิ้งเอาไว้ประมาณ 20 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด
3. สูตรน้ำมะพร้าว นำน้ำมะพร้าวมาทาบนใบหน้า เนื่องจากน้ำมะพร้าวสามารถช่วยทำให้ผิวนุ่มเนียน และชุ่มชื่นมากยิ่งขึ้น
4. สูตรกล้วยหอม+นมสด นำกล้วยหอมและนมสดมาผสมให้เป็นเนื้อเดียวกัน แล้วนำส่วนผสมที่ได้มาทำการพอกบนใบหน้า ทิ้งเอาไว้ประมาณ 30 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด
5. สูตรโยเกิร์ต นำโยเกิร์ตรสธรรมชาติมาพอกหน้า แล้วทิ้งเอาไว้ประมาณ 15-20 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด
6. สูตรดินสอพอง เป็นสูตรที่เหมาะกับคนหน้ามัน นำดินสอพองมาผสมกับน้ำเปล่า แล้วนำส่วนผสมที่ได้มาทำการพอกบนใบหน้า ทิ้งเอาไว้ประมาณ 30 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด
7. สูตรไข่ขาว นำไข่ขาวมาพอกที่หน้า ทิ้งเอาไว้ประมาณ 20 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด
8. สูตรขมิ้น นำขมิ้นมาบดให้ละเอียดผสมน้ำเล็กน้อย แล้วนำส่วนผสมที่ได้มาทำการพอกลงบนใบหน้า ทิ้งเอาไว้ประมาณ 10-15 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด
9. สูตรแอปเปิ้ล นำแอปเปิ้ลประมาณครึ่งผล ปั่นให้ละเอียดโดยที่ไม่ต้องปอกเปลือก แล้วนำมาพอกบนใบหน้า ทิ้งเอาไว้ประมาณ 25 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด
10. สูตรแอปเปิ้ล+น้ำมะนาว นำแอปเปิ้ลประมาณครึ่งผล ปั่นให้ละเอียดโดยที่ไม่ต้องปอกเปลือกแล้วนำแอปเปิ้ลที่ปั่นละเอียดแล้วผสมเข้ากับน้ำมะนาวประมาณ 2
ช้อนชาให้เข้ากัน จากนั้นนำส่วนผสมที่ได้มาทำการพอกบนใบหน้า ทิ้งเอาไว้ประมาณ 10 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำ
ช้อนชาให้เข้ากัน จากนั้นนำส่วนผสมที่ได้มาทำการพอกบนใบหน้า ทิ้งเอาไว้ประมาณ 10 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำ
แหล่งอ้างอิง : http://www.beauty24store.com
หน้าใสไร้สิว วิธีง่ายๆ ช่วยให้หน้าใสไร้สิว
หน้าใสไร้สิว เป็นสิ่งที่ใครๆก็ต้องการทั้งนั้น แต่ยอมรับเถอะว่า ไม่ใช่ทุกคนหรอก ที่จะยอมทำตามวิธี ที่จำเป็นสำหรับการทำให้หน้าของตัวเอง เนียน ใส ไร้สิวและริ้วรอย หรือให้ใบหน้านั้นปราศจาก สิ่งสกปรก, ความมัน, การอักเสบ การที่จะให้ได้มาซึ่งหน้าที่ใสไร้สิวเป็นสิ่งที่เป็นไปได้ สามารถทำได้จริง ข้างล่างนี้ ที่ทำให้หน้าของคุณเนียนใส ปราศจากสิวมากวนใจหน้าใสไร้สิว ขั้นตอนที่ 1 – ห้ามบีบสิวเป็นอันขาด
- ห้ามบีบสิวเป็นอันขาด เพราะนี่เป็นกฎข้อแรกเลยสำหรับคนที่อยากมีหน้าที่ใส ปราศจากสิว เพราะว่า สิวเต็มไปด้วยแบคทีเรียสกปรกอยู่ข้างใน
- ถ้าหากคุณบีบสิวจนแตก แบคทีเรียเหล่านั้นมีโอกาสที่จะเข้าไปในรูขุมขนข้างๆ และกลายเป็นแบคทีเรียเหล่านั้นไปพักอาศัยอยู่ในรูขุมขนข้างๆแทน จนเกิดเป็นสิวเม็ดใหม่แทน
ขั้นตอนที่ 2 – อย่าเอามือไปจับหน้าตัวเอง
- ไม่ว่าจะล้างมือสะอาดเพียงไหน ผ่านไป 10 นาทีสิ่งสกปรกก็กลับมาอยู่บนมือเราเหมือนเดิม เพราะฉะนั้น อย่าใช้มือของคุณจับ แกะ เกา ใบหน้าของคุณบ่อยๆจะดีกว่า เพื่อป้องกันโอกาสของสิ่งสกปรกที่จะไปอุดตันอยู่บนใบหน้า
ขั้นตอนที่ 3 – ดื่มน้ำเยอะๆ และงดเครื่องดื่มเพิ่มความหวาน
- ผิวหนังคนเราก็เป็นอวัยวะส่วนหนึ่งของร่างกายเช่นกัน ซึ่งทุกส่วนของอวัยวะของร่างกายต้องการน้ำในปริมาณที่มากพอ เพื่อที่จะทำงานได้อย่างปกติ ไม่เกิดอาการบวมแดง อักเสบใดๆ ผู้ชายควรดื่มน้ำประมาณ 3 ลิตร ผู้หญิงประมาณ 2.2 ลิตร ถ้าหากเป็นผู้ที่มีปัญหาสิวหรืออยาก หน้าใสไร้สิว แนะนำให้ดื่มมากกว่าปริมาณที่แนะนำ
- ลดปริมาณเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลลง เช่น น้ำอัดลม น้ำหวาน น้ำผลไม้สมูทตี้ โซดา เพราะว่าเครื่องดื่มเหล่านี้ ทำให้ระดับอินซูลินในเส้นเลือดเพิ่มขึ้นซึ่งส่งผลให้เกิดการกระตุ้นการสร้างฮอร์โมนมากขึ้น นั่นหมายถึงปัญหาสิวที่มากขึ้นตามมาเช่นกัน
- ลดปริมาณการดื่มนม นมนั้นถูกจัดเป็นอีกอาหารที่ทำให้เกิดปัญหาสิวได้ เพราะว่า สารอาหารในนมเป็นตัวกระตุ้นฮอร์โมนเพศชาย (testosterones และ androgens) ซึ่งตามมาด้วยอินซูลินที่เพิ่มขึ้น ทำให้เพิ่มโอกาสของการเกิดปัญหาสิว
- ดื่มชาเขียวแบบที่ไม่ได้เติมความหวานใดๆ ชาเขียวนอกจากจะอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ที่ทำให้เกิดริ้วรอยก่อนวัยอันควรแล้ว ยังมีส่วนช่วยให้เรื่องของปัญหาสิวอีกด้วย ลองเปลี่ยนจากดื่มน้ำอัดลม มาเป็นดื่มชาแทนดูครับ ช่วยได้หลายด้านจริงๆ
แหล่งอ้างอิง : http://re-bornmask.com
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)